Fibonacci: เคล็ดลับจับจังหวะย่อตัว Forex แม่นยำ ทำกำไรไม่พลาด!


Fibonacci Retracement: เครื่องมือหาจังหวะย่อตัวทำกำไรที่เทรดเดอร์ Forex ต้องมี

กำลังมองหาเครื่องมือช่วยหาจุดเข้าซื้อขายในช่วงที่ราคาพักตัวหรือย่อตัวในแนวโน้มหลักอยู่ใช่ไหม? Fibonacci Retracement (ฟีโบ รีเทรซเมนต์) คือหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลังและได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักเทรดทั่วโลก ช่วยให้คุณมองเห็นแนวรับ-แนวต้านสำคัญที่อาจเป็นจุดกลับตัวหรือไปต่อของราคาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

Fibonacci Retracement คืออะไร?

เครื่องมือนี้มีพื้นฐานมาจากลำดับเลขฟีโบนักชี (Fibonacci Sequence) ซึ่งเป็นลำดับตัวเลขที่พบได้ในธรรมชาติ และเชื่อกันว่ามีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของตลาดการเงินด้วย โดย Fibonacci Retracement จะช่วยระบุระดับราคาที่เป็นไปได้ที่ราคาอาจจะย่อตัว (Retrace) กลับไปหาก่อนที่จะเคลื่อนที่ตามแนวโน้มเดิมต่อไป ระดับเหล่านี้จึงทำหน้าที่เป็น แนวรับ (Support) หรือ แนวต้าน (Resistance) ที่สำคัญนั่นเอง

หลักการทำงาน:

การใช้งาน Fibonacci Retracement นั้นไม่ซับซ้อน โดยเราจะลากเส้นจากจุดต่ำสุด (Swing Low) ไปยังจุดสูงสุด (Swing High) ล่าสุดในแนวโน้มขาขึ้น หรือลากจากจุดสูงสุด (Swing High) ไปยังจุดต่ำสุด (Swing Low) ล่าสุดในแนวโน้มขาลง จากนั้นเครื่องมือจะสร้างเส้นแนวนอนตามระดับเปอร์เซ็นต์ของ Fibonacci ที่สำคัญขึ้นมาบนกราฟ ได้แก่:

  • 23.6%
  • 38.2%
  • 50.0% (แม้ไม่ใช่เลขฟีโบนักชีโดยตรง แต่เป็นระดับที่สำคัญทางจิตวิทยา)
  • 61.8% (อัตราส่วนทองคำ – Golden Ratio)
  • 78.6%

ระดับเหล่านี้คือโซนราคาที่ตลาดมีแนวโน้มจะเกิดปฏิกิริยา เช่น การย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับในเทรนด์ขาขึ้น หรือดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านในเทรนด์ขาลง โดยเฉพาะระดับ 38.2%, 50.0%, และ 61.8% มักจะเป็นระดับที่มีนัยสำคัญและนักเทรดให้ความสนใจเป็นพิเศษ

วิธีใช้งาน Fibonacci Retracement อย่างมีประสิทธิภาพ:

  1. หาจุดเข้าเทรด (Entry Points):

    • ใน แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend): มองหาโอกาสเข้า Buy เมื่อราคาย่อตัวลงมาทดสอบระดับ Fibo Retracement (เช่น 38.2%, 50%, 61.8%) แล้วมีสัญญาณซื้อเกิดขึ้น เช่น แท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Pattern) หรือสัญญาณจาก Indicator อื่นๆ
    • ใน แนวโน้มขาลง (Downtrend): มองหาโอกาสเข้า Sell เมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปทดสอบระดับ Fibo Retracement แล้วมีสัญญาณขาย
  2. กำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss):

    • สำหรับออเดอร์ Buy: ตั้ง Stop Loss ไว้ต่ำกว่าระดับ Fibo ที่ราคาเด้งขึ้นไป หรือต่ำกว่าจุด Swing Low ที่ใช้ลากเส้น Fibo เล็กน้อย
    • สำหรับออเดอร์ Sell: ตั้ง Stop Loss ไว้สูงกว่าระดับ Fibo ที่ราคาดีดลงมา หรือสูงกว่าจุด Swing High ที่ใช้ลากเส้น Fibo เล็กน้อย
  3. กำหนดจุดทำกำไร (Take Profit):

    • สามารถใช้ระดับ Fibo ถัดไปเป็นเป้าหมายทำกำไรระยะสั้น หรือใช้จุด Swing High/Low เดิมเป็นเป้าหมาย หรือใช้ร่วมกับ Fibonacci Extension เพื่อหาเป้าหมายที่ไกลขึ้น

เพิ่มความแม่นยำ:

Fibonacci Retracement จะทำงานได้ดียิ่งขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับการวิเคราะห์รูปแบบอื่นๆ:

  • ยืนยันด้วยแนวโน้ม: ควรใช้ Fibo Retracement ในทิศทางเดียวกับแนวโน้มหลัก (Trend is your friend!)
  • ใช้ร่วมกับแนวรับ-แนวต้าน: หากระดับ Fibo ซ้อนทับกับแนวรับ-แนวต้านเดิม จะยิ่งเพิ่มนัยสำคัญให้กับระดับนั้น
  • ดูสัญญาณ Price Action: มองหาสัญญาณยืนยันจากแท่งเทียน ณ ระดับ Fibo ที่สำคัญ
  • ใช้ร่วมกับ Indicator อื่นๆ: เช่น Moving Average, RSI, หรือ MACD เพื่อช่วยยืนยันสัญญาณเข้าเทรด

จุดเด่นของ Fibonacci Retracement:

  • ระบุแนวรับ-แนวต้าน: ช่วยหาโซนราคาสำคัญที่อาจเกิดการกลับตัวหรือพักตัว
  • กำหนดจุดเข้า/ออก: ช่วยวางแผนการเทรด หาจุดเข้า จุด Stop Loss และ Take Profit ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
  • เป็นที่ยอมรับ: นักเทรดจำนวนมากทั่วโลกใช้เครื่องมือนี้ ทำให้ระดับ Fibo มีผลทางจิตวิทยาต่อตลาด
  • ใช้งานได้หลากหลาย: ใช้ได้กับทุกตลาด (Forex, หุ้น, คริปโตฯ) และทุก Timeframe

ข้อควรระวัง:

  • การเลือกจุด Swing High/Low ในการลากเส้นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล (Subjective)
  • ไม่ใช่ทุกครั้งที่ราคาจะเด้งที่ระดับ Fibo อย่างแม่นยำ ควรใช้เป็นการยืนยันร่วมกับเครื่องมืออื่นเสมอ

สมัครสมาชิกกับเราวันนี้ (ฟรี) เพื่อดาวโหลดอินดิเคเตอร์และ EA ไปใช้กันได้เลย!

คลิกที่นี่เพื่อสมัครสมาชิก

คลิกที่นี่เพื่อดาวโหลดอินดิเคเตอร์

หมายเหตุ – ใช้ได้กับโปรแกรม MT4 บนคอมพิวเตอร์เท่านั้น

วิธีการติดตั้ง Indicator ลงในโปรแกรม MT4

วิธีการใช้งานโปรแกรม MT4 บนคอมพิวเตอร์